จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อ 3 หญิงแกร่งร่วมมือร่วมใจกันทำงานเพื่อ สนจ….
เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา สมาคมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (สนจ.) ได้เลือกตั้งคณะกรรมการอำนวยการ วาระปี 2564-2566 จากนั้นคณะกรรมการได้เลือกผู้ที่จะดำรงตำแหน่งนายกสมาคมฯ และผู้ที่ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมคนที่ 32 คือ อัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย นิสิตเก่าจากคณะวิศวกรรมศาสตร์…
สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ที่เป็นนายก สนจ.หญิงคนแรกในรอบ 75 ปีเลยทีเดียว…
ปัจจุบัน อัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย วศ.23 หรือ “พี่จิ๊” ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือกระทรวงดีอี และนอกจากนายกสมาคมฯ แล้ว ในคณะกรรมการชุดนี้ยังมีนิสิตเก่าหญิงจากคณะวิศวกรรมศาสตร์อีก 2 ท่านที่พร้อมใจมาร่วมทำงานเพื่อ สนจ. ของเรา คือ ดวงพร เที่ยงวัฒนธรรม วศ.22 เลขาธิการสมาคมฯ หรือที่พวกเราเรียกันว่า “พี่ดวง” พี่ดวงเพิ่งพ้นจากตำแหน่งกรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ปตท.มาหมาด ๆ อีกคนคือ ปรียานุช ศุภสิทธิ์ วศ.23 “พี่หยก” รองเลขาธิการสมาคมฯ และเลขาธิการสมาคมวิศวกรหญิงไทย เรียกว่าแทคทีม 3 สาวแกร่งกันมาเลย
![](https://www.intaniamagazine.com/wp-content/uploads/2021/10/11-205x300.jpg)
อัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย นายกสมาคม สนจ. วาระปี 2564-2566
น่าสนใจแล้วใช่ไหมว่า… สนจ. ภายใต้การบริหารของนายกสมาคมหญิงคนแรกจะเป็นอย่างไร…
อัจฉรินทร์ “พี่จิ๊” กล่าวกับพวกเราอย่างภูมิใจว่า การได้รับเลือกเป็นนายก สนจ. รู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่จะได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาให้ สนจ. ก้าวไปข้างหน้าอย่างสง่างาม และเพื่อให้ “จุฬาฯ รับใช้ประชาชน” เป็นการน้อมสืบสานพระราชปณิธานแห่งพระผู้พระราชทานกำเนิดจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กอปรกับเป็นคนชอบทำกิจกรรมตั้งแต่ยังเป็นนิสิต และมีโอกาสมาร่วมทำงานกับ สนจ. ในบางช่วง ทำให้เชื่อมั่นว่าจะทำงานได้สำเร็จดังตั้งใจแน่นอน
เปิดกว้างให้นิสิตเก่าทุกรุ่นทุกวัยให้เข้ามาร่วมกิจกรรม ให้ สนจ.ได้เป็นศูนย์กลางของทุกคน
ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่เกิดโรคระบาดของโรคโควิด-19 จุฬาฯ ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพทั้งของนิสิตปัจจุบันและนิสิตเก่าในการนำความรู้ความสามารถมากมารับใช้ประชาชน จุฬาฯ เองได้รับการจัดอันดับให้เป็นมหาวิทยาลัยที่มีความ Sustainable Impact อันดับต้น ๆ ของโลก อย่างที่ทราบกันดีว่าจุฬาฯ เรามีผลงานที่ได้เข้าไปช่วยเหลือสังคมมากมาย และเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยแบ่งเบาปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นในช่วงที่เกิด PM2.5 และในสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการแพร่ระบาดเชื้อไวรัส COVID-19
มหาวิทยาลัยจะต้องเป็นหลักที่ช่วยประเทศและสังคมในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นทางด้านวิทยาการและความรู้ทั่วไป ต้องผลิตนิสิตที่พร้อมทั้งความรู้รอบตัวและความรู้ทางด้านวิชาการ จึงเป็นสิ่งที่เราต้องตระหนักถึงเช่นกัน ดังนั้น สนจ. ต้องเป็นศูนย์กลางของนิสิตเก่าทุกคณะ ทุกวัย ไม่เฉพาะกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ต้องเปิดกว้างมากขึ้นให้นิสิตเก่าเข้ามาร่วมกิจกรรมให้มากขึ้น
ด้วยเป็นปลัดดีอี จะนำระบบ e-Office มาใช้เพื่อให้การบริหารจัดการ สนจ. ทันสมัยและทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคดิจิทัล
ความตั้งใจแรกหลังจากรับตำแหน่งคือ การพัฒนารูปแบบการทำงานให้นำระบบ e-office มาใช้เพื่อลดขั้นตอนการทำงานให้รวดเร็ว ลดภาระของพนักงาน สะดวกกับทุก ๆ คนที่เกี่ยวข้อง และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานมากยิ่งขึ้น ซึ่งคิดว่าทำได้แน่นอนเพราะเจ้าหน้าที่มีศักยภาพอยู่แล้ว
![](https://www.intaniamagazine.com/wp-content/uploads/2021/10/22-171x300.jpg)
ดวงพร เที่ยงวัฒนธรรม วศ.22 เลขาธิการ สนจ. และ ปรียานุช ศุภสิทธิ์ วศ.23 รองเลขาธิการ สนจ.
“คู่ใจ” เรื่องสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งในการทำงาน…
การทำงานนั้นทีมงานเป็นสิ่งจำเป็นเพราะเราไม่สามารถทำงานคนเดียวได้ จึงต้องเลือกผู้จะมาทำงานร่วมกันอย่างถี่ถ้วน หรือต้องมี “คู่ใจ” ที่มีความสามารถ และไว้ใจกันได้ ไม่อย่างงั้นเราทำงานไม่ได้จริง ๆ …
เมื่อถึงเวลาต้องเลือกคนทำงานร่วมกัน ก็นึกถึงรุ่นพี่กับเพื่อนที่รู้จักกันตั้งแต่ยังเป็นนิสิตที่คณะวิศวฯ คือ พี่ดวง กับหยก ที่จริงก็คิด ๆ ไว้แล้วว่าจะชวนใครมาทำงานด้วยกัน เพราะคนที่ทำงาน สนจ. ต้องเป็นคนที่มีความสามารถ เป็นคนกว้างขวางในความรู้ และด้านอื่น ๆ ก็ได้พี่ดวงกับหยกมาทำงานด้วยกัน
นอกจากนั้นก็ได้รับคำปรึกษาจากพี่ ๆ ที่ให้คำแนะนำว่า ตำแหน่งไหนควรเลือกใครเพื่อให้ตรงกับความสามารถที่จะเข้ามาช่วยเราพัฒนาและทำงานร่วมกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งที่ผ่านมาเพียงระยะสั้น ๆ ที่ได้ทำงานร่วมกันก็ต้องเรียนว่าคณะกรรมของ สนจ. ทุกท่านทำงานได้อย่างมีพลัง และมีประสิทธิภาพอย่างมาก เป็นการทำงานอย่างตรงไปตรงมา ละเอียดทุกระบบและขั้นตอน ทำให้มั่นใจได้ว่าการทำงานจากนี้ไปจะต้องประสบความสำเร็จแน่นอน
![](https://www.intaniamagazine.com/wp-content/uploads/2021/10/33-300x201.jpg)
“พี่ดวงกับหยก”…2 หญิงแกร่ง “คู่ใจ” ที่พร้อมทำงานเพื่อความก้าวหน้าของ สนจ.
ดวงพร เที่ยงวัฒนธรรม วศ.22 “พี่ดวง” เลขาฯ สนจ. กล่าวเสริมว่า พวกเราสนิทกันทั้งแต่ยังเป็นนิสิต เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกัน ซึ่งในสมัยนั้นนิสิตหญิงทุกรุ่นจะสนิทสนมกันอย่างมาก เพราะมีกิจกรรมทำร่วมกันมาตลอด พอเริ่มทำงานก็อาจจะห่าง ๆ กันไปบ้างตามภาระหน้าที่ แต่ก็มีโอกาสได้ร่วมกิจกรรมนอกงานกันบ้างในบางครั้ง
ในจังหวะเดียวกับที่ได้ตัดสินใจเกษียณจากการทำงานประจำ ก็ได้รับการติดต่อจากจิ๊ให้มาทำงานด้วยกันที่ สนจ. ตอบรับอย่างไม่ลังเล เพราะเราเป็นพี่น้องวิศวฯ รักกันและช่วยเหลือกันในทุกเรื่องอยู่แล้ว ด้วยตัวเราเองก็มีแนวทางการทำงานคล้ายกันกับจิ๊อยู่แล้ว เช่น ในเรื่องการปรับการทำงานใน สนจ. ให้มีความทันสมัย มีประสิทธิภาพมากขึ้น และนำระบบดิจิตอลเข้ามาใช้ให้เป็นประโยชน์ รวมทั้งต้องมีกระบวนการทำงานที่รวดเร็วและโปร่งใส ซึ่งเป็นสิ่งที่ทาง สนจ. ให้ความสำคัญเสมอมา
ความตั้งใจและเป้าหมายนั้นเป็นสิ่งสำคัญ เรียกได้ว่าโชคดีที่เรามีความตั้งใจและเป้าหมายเดียวกันที่อยากจะพัฒนา เพราะฉะนั้นก็ไม่ยากเลยที่จะตอบรับเป็นเลขาธิการในครั้งนี้…
แนวทางที่จะทำต่อไปคือ จะทำงานร่วมกับคณะกรรมการ สนจ. ในการกำหนดทิศทางการดำเนินงานของ สนจ. ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น และเพิ่มเสริมโครงการ หรือกิจกรรมที่สอดคล้องกับทิศทาง สนจ. เชื่อมโยงกับนิสิตเก่า นิสิตปัจจุบัน คณะต่าง ๆ และทางมหาวิทยาลัย เพื่อที่จะรวบรวมความรู้ ความสามารถของพวกเราชาวจุฬาฯ มาร่วมกันทำประโยชน์อย่างมี impact ให้สังคมจุฬาฯ และสังคมโดยรวม
ส่วน ปรียานุช ศุภสิทธิ์ วศ.23 รองเลขาฯ กล่าวว่า เมื่อครั้งที่ได้รับการติดต่อก็คิดอยู่ระยะหนึ่งแต่เมื่อได้รับการยืนยันว่างานที่จะต้องทำในตำแหน่งรองเลขาฯ เหมาะสมกับเรา ก็ยินดีรับแล้วยังได้ทำงานร่วมกับรุ่นพี่และเพื่อนที่รู้จักกันมาตั้งแต่ยังเป็นนิสิตด้วย ก็คิดว่าน่าจะทำงานสนุก
งานแรกของคณะกรรมการชุดให้คือ งาน “ปิยมหาราชานุสรณ์ 2564 จุฬาฯ รับใช้ประชาชน” ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 23 ตุลาคม นี้ ซึ่งได้เริ่มทำงานร่วมกันมาประมาณ 1 เดือน จากที่ทำงานร่วมกัน ทราบได้เลยว่ากรรมการทุกคนมีความทรงคุณค่ามาก ทำงานรอบครอบ ไม่มีล่าช้า ขอชื่นชมมาก ๆ เพราะว่าเราเป็นทีมที่เข้ามาใหม่ แต่สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างไม่มีปัญหา และที่สำคัญทุกคนมีความ Active ในการทำงานมาก ๆ
![](https://www.intaniamagazine.com/wp-content/uploads/2021/10/44-300x148.jpg)
เมื่อบุคลากรสร้างสรรค์ผลงานได้อย่างมีประสิทธิภาพก็ย่อมเกิดประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติ
อัจฉรินทร์ กล่าวว่า การจัดหาบุคลากรนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญในการทำงานร่วมกันเป็นอย่างมาก จุฬาฯ เราต้องการความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันที่ชัดเจน การจัดการบุคลากรจึงเป็น Keyword สำคัญ เมื่อบุคลากรพร้อม การทำงานนั้นก็สามารถสร้างสรรค์ผลงานได้อย่างเต็มศักยภาพ และผลงานต่าง ๆ ก็จะออกมาสู่ประชาชน และเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติ
ต้องบอกว่าการจัดทีมนั้นใช้เวลานานพอสมควร เพราะต้องคำนึงถึงเป้าหมายสำคัญเพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากที่สุด และต้องบรรลุเป้าหมายในการทำงาน ทำให้ สนจ. เป็นศูนย์กลางของจุฬาฯ ทุกรุ่นทุกวัย ให้ทุกคนเข้ามาแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ และสิ่งที่ตนเองสนใจกันอย่างวงกว้าง ไม่จำใช่ทำเพื่อกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้น
นอกจากนั้น เป้าหมายหนึ่งที่จะต้องผลักดันให้สำเร็จคือ การนำเอาดิจิตอลเข้ามาผสมผสานกับรูปแบบการทำงานให้มากยิ่งขึ้น เพื่อลดขั้นตอนการทำงาน เพิ่มความมีประสิทธิภาพ และพัฒนาศักยภาพของคนทำงานให้ดียิ่งขึ้น
ดังนั้น การช่วยเหลือเกื้อกูลกันของทีมงานสามารถทำได้ในหลายรูปแบบ ทั้งในมิติของความรู้ ทักษะ และทัศนคติ หากสมาชิกในทีมมีทักษะเฉพาะที่ทำให้งานเสร็จลุล่วงได้ดีก็ช่วยแนะนำเครื่องมือเพื่อสนับสนุนการทำงานของทีมได้ เพราะฉะนั้น ทุกคนล้วนมีความสำคัญภายใต้บทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบของตนเอง ความเท่าเทียมอย่างให้เกียรติจึงเป็นการทำหน้าที่ของแต่ละบุคคลให้ดีที่สุด โดยให้เกียรติซึ่งกันและกัน ส่งผลให้สมาชิกในทีมต่างตระหนักในความสำคัญของกันและกัน
สุดท้าย นายกสมาคมฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องต่างร่วมมือร่วมใจกันแก้ปัญหา เผื่อให้สถานการณ์ดังกล่าวคลี่คลายโดยเร็ว เราชาวจุฬาฯ ได้เป็นส่วนหนึ่งในการนำองค์ความรู้ต่าง ๆ มาช่วยเหลือประชาชนให้สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างปลอดภัย เช่น หุ่นยนต์ CU Robocovid รวมทั้งการจัดกิจกรรมใหม่ เช่น ข้าวแสนกล่อง กล่องรอดตาย ซึ่ง สนจ. ได้เข้าไปมีส่วนสนับสนุนกิจกรรมเหล่านั้นอย่างเต็มรูปแบบ นับว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี 2 ปี ข้างหน้าหลังจากนี้ ทิศทางการดำเนินงานของ สนจ.จะมุ่งสร้างสรรค์และดำเนินกิจกรรมดี ๆ เพื่อรับใช้ประชาชนแบบ 4D ร่วมขับเคลื่อนสังคมไทยให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง ภายใต้การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและโลกยุคใหม่
สำหรับที่มาของ 4D นั้น ประกอบด้วย D1 : Diversity ไม่ว่าจะเป็นชาวจุฬาฯ รุ่นไหน Generation อะไร อยู่ที่ไหน ในประเทศไทย หรือมุมไหนของโลก จะได้มาร่วม แรงร่วมใจกันทำความดีเพื่อสังคม D2 : SDGs ย่อมาจาก Sustainable Development Goals มี 17 เป้าหมาย วันนี้พวกเราชาวจุฬาฯ จะร่วมกันดูแลทั้ง 17 เป้าหมายนี้ด้วยความถนัด ความเชี่ยวชาญที่แต่ละคนมีอย่างมีคุณภาพ ผ่านนวัตกรรมจุฬาฯ D3 : Digital Platform เชื่อมโยงทุกคนเข้าหากันผ่าน Digital Platform หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น 1.แอปพลิเคชัน CHAM mobile application 2. www.dek.chula.ac.th ชวนคนจุฬาฯ กลับมา ศึกษาเรียนรู้เพิ่มเติมยังบ้านจุฬาฯ 3. คือ Instagram 4. Clubhouse และ 5. Tiktok และ D4 : DSR สร้างกิจกรรม Digital Social Responsibility
มาดูกันว่า สนจ. จะเปลี่ยนไปอย่างไรภายใต้นายกหญิง เลขาธิการหญิง และรองเลขาธิการหญิงของพวกเราชาวปราสาทแดง…
และที่น่าสนใจยิ่งขึ้นสำหรับ สนจ. ชุดใหม่นี้คือ นอกจากหญิงแกร่งวิศวฯ แล้ว อินทาเนียยังแอบไปเห็นหญิงแกร่งจากคณะอื่น ๆ อีกหลายท่าน อาทิ ดร.ลักขณา ลีลายุทธโยธิน จากคณะวิทยาศาสตร์ อดีตนายกสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย และกรรมการอิสระ SCB ศ. ดร.ปาริชาติ สถาปิตานนท์ จากคณะนิเทศศาสตร์ รองอธิการบดี อดีตคณบดีคณะนิเทศศาสตร์ มือต้น ๆ ในวงการสื่อสารมวลชน รัตนาวลี โลหารชุน จากคณะครุศาสตร์ อดีตเลขาธิการ สนจ. นายกสมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิตจุฬาฯ เพียงพนอ บุญกล่ำ จากคณะนิติศาสตร์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักกฎหมาย ปตท. วรรณพร พรประภา จากคณะสถาปัตยศาสตร์ กระบี่มือหนึ่ง ภูมิสถาปัตย์ไทย และภิมลภา สันติโชค จากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี กรรมการผู้จัดการ ดอยซ์ แบงค์ ประเทศไทย
![](https://www.intaniamagazine.com/wp-content/uploads/2021/10/55-200x300.jpg)
![](https://www.intaniamagazine.com/wp-content/uploads/2021/10/66-200x300.jpg)
![](https://www.intaniamagazine.com/wp-content/uploads/2021/10/77-200x300.jpg)
ดร.ลักขณา ลีลายุทธโยธิน ศ. ดร.ปาริชาติ สถาปิตานนท์ รัตนาวลี โลหารชุน
![](https://www.intaniamagazine.com/wp-content/uploads/2021/10/88-200x300.jpg)
![](https://www.intaniamagazine.com/wp-content/uploads/2021/10/99-200x300.jpg)
![](https://www.intaniamagazine.com/wp-content/uploads/2021/10/10-200x300.jpg)
เพียงพนอ บุญกล่ำ วรรณพร พรประภา ภิมลภา สันติโชค
พูดได้ว่า สนจ. ยุคนี้ เป็นแหล่งชุมนุมหญิงเก่ง หญิงแกร่งของจุฬา อย่างแท้จริง… น่าติดตามบทบาทของหญิงเก่งแห่งจุฬาฯ ว่าจะขับเคลื่อน สนจ.ไปได้ตามที่นิสิตเก่าหวังหรือไม่…
งานแรกของคณะกรรมการชุดนี้คืองาน “ปิยมหาราชานุสรณ์ 2564” ภายใต้คอนเซปต์ “จุฬา ฯ รับใช้ประชาชน” เป็นการรวมพลังชาวจุฬาฯ ทั่วโลก ชวนกันมาทำดีผ่านกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อหารายได้สมทบทุนจุฬาสงเคราะห์ ทุนอาหารกลางวันและสนับสนุนอุปกรณ์การเรียนออนไลน์ให้แก่น้องนิสิตจุฬาฯ นับเป็นการส่งต่อโอกาสที่ดีจากรุ่นพี่สู่รุ่นน้อง พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้มีจิตศรัทธาที่มีความประสงค์ร่วมบริจาคเงินผ่านออนไลน์ในแคมเปญ “Less is More” เริ่มต้นที่ 500 บาท เพื่อเป็นการระดมทุนอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
งาน “ปิยมหาราชานุสรณ์ 2564” กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 23 ตุลาคม 2564
ขอเรียนเชิญพี่น้องชาวจุฬาฯ ทั้งนิสิตเก่าจุฬาฯ ทั่วโลก และผู้มีจิตศรัทธามาร่วมกันส่งต่อโอกาสดี ๆ ให้กับรุ่นน้อง โดยสามารถบริจาคสมทบทุนในงาน “ปิยมหาราชานุสรณ์ 2564” เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการให้ โดยบริจาคสมทบทุน 500 บาท หรือตามจำนวนที่ศรัทธาได้ที https://cuaa.chula.ac.th/membership/deposit